วิธีใช้ครกสากไทย

การประกอบอาหารด้วยครกสากไทย
ใช้ประโยชน์สูงสุดจากครกและสาก!

วิธีใช้ครกสากไทย

หัวใจสำคัญของครัวไทยคือครกและสาก (เรียกว่า ครกและสาก) ครกและสากเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงประเพณีการทำอาหาร ได้รับการยกย่องว่าสามารถผสมผสานรสชาติอาหารที่แท้จริงเข้ากับอาหารได้อย่างลงตัว
การใช้เครื่องมือแบบดั้งเดิมเหล่านี้อย่างเชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มพูนทักษะการทำอาหารของคุณได้อย่างมาก ตั้งแต่สีสันที่สดใสของพริกแกงไทยไปจนถึงกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่บดสดใหม่ มาเรียนรู้ศิลปะในการเลือกครกและสากที่เหมาะสมและทำความเข้าใจถึงการใช้งานที่เหมาะสมกันเถอะ

ส่วนผสมผัดไทย
สำหรับการทำพริกแกงเอง ให้ใช้ครกและสาก

ครก ปล่อยกลิ่นและรสชาติ

เมื่อคุณสังเกตเสียงการตำส่วนผสมอย่างเป็นจังหวะในครกและสาก คุณจะรู้สึกราวกับว่ากลิ่นและรสชาติต่างๆ กำลังถูกปล่อยออกมาในอากาศ เทคนิคการบดและบดส่วนผสมแบบดั้งเดิมนี้ช่วยปลดล็อกน้ำมันและสาระสำคัญตามธรรมชาติ ส่งผลให้ได้รสชาติที่ล้ำลึกซึ่งเครื่องใช้ในครัวสมัยใหม่ไม่สามารถทดแทนได้
ครกและสากทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา โดยทำลายผนังเซลล์ของสมุนไพร เครื่องเทศ และผัก ทำให้กลิ่นที่ซ่อนอยู่ของสมุนไพรและผักเหล่านั้นออกมา และรสชาติของผักก็จะเข้มข้นขึ้น เนื้อสัมผัสของส่วนผสมต่างๆ จะถูกเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการผสมผสานที่ลงตัวซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอาหารไทยหลายๆ จาน

ประเภทของครกสากไทย

ห้องครัวไทยใช้ครกและสาก 2 ประเภทหลักๆ คือ ครกหินแกรนิตและสากดินเผาพร้อมสากไม้เนื้อแข็ง วัสดุแต่ละประเภทมีข้อดีและความเหมาะสมกับส่วนผสมและสูตรอาหารแต่ละประเภท

 

การประกอบอาหารด้วยครกสากไทย

 

ครกหินแกรนิต

ประโยชน์:
ครกหินแกรนิตซึ่งทำจากหินอัคนีที่แข็งแรง มีความทนทานและแข็งแกร่งเป็นพิเศษ น้ำหนักและโครงสร้างที่แข็งแรงทำให้บดได้ละเอียด เหมาะสำหรับทำพริกแกงและผสมเครื่องเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ความแข็งแรงช่วยให้ผสมได้ละเอียด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสูตรอาหาร เช่น พริกแกงเขียวหวานไทย
ด้วยขนาดและความจุที่หลากหลาย ทำให้เครื่องนี้ใช้งานได้หลากหลายขนาดตั้งแต่เครื่องปรุงไปจนถึงเนยถั่ว โครงสร้างที่แข็งแรงช่วยให้มั่นคงขณะใช้งาน ช่วยลดการพลิกคว่ำหรือลื่นไถล และน้ำหนักยังช่วยให้บดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ข้อเสีย:
น้ำหนักอาจเป็นปัญหาในการจัดการและทำความสะอาด โดยเฉพาะกับผู้ที่มีการเคลื่อนไหวหรือความแข็งแรงที่จำกัด นอกจากนี้ เนื่องจากหินแกรนิตมีรูพรุน จึงมีแนวโน้มที่จะดูดซับของเหลวและกลิ่น ทำให้ไม่เหมาะกับการบดส่วนผสมที่มีกลิ่นฉุน เช่น ปลา

ส่วนผสมผัดไทย
ในประเทศไทย ส้มตำมักจะทำโดยใช้สากไม้และครกดินเผา

ครกดินเผาและสาก

ประโยชน์:
ครกดินเผาหรือที่เรียกอีกอย่างว่าครกสไตล์ลาว เป็นทางเลือกทดแทนหินแกรนิตที่มีราคาไม่แพงและมีน้ำหนักเบา ผลิตจากดินเผาที่ทนทาน เหมาะสำหรับการบดและผสมแบบเบา เช่น บดกระเทียมหรือผสมน้ำมันพริก ครกดินเผามีราคาไม่แพงและมีน้ำหนักที่พอเหมาะ จึงเหมาะสำหรับพ่อครัวแม่ครัวที่มีทักษะหลากหลายระดับ
ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการหมักและผสมเบาๆ ช่วยรักษาเนื้อสัมผัสที่ละเอียดอ่อนในอาหาร เช่น ส้มตำ หรือ น้ำพริกน้ำพริก สำหรับผู้ที่ต้องการอาหารที่มีเนื้อสัมผัส ชุดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ชามลึกเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำน้ำหมัก เครื่องเทศ และน้ำสลัดวิเนเกรต

ข้อเสีย:
เมื่อเทียบกับหินแกรนิตแล้ว หินแกรนิตมีความเปราะบางมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้แรงมากเกินไปในการเจียร นอกจากนี้ ส่วนผสมหรือน้ำยาที่ผสมจากปูนดินเผาอาจไม่มีความเรียบเนียนเท่ากับปูนหินแกรนิต

หินแกรนิตหรือดินเผา: อะไรเหมาะกับคุณ?
การเลือกใช้ครกหินแกรนิตหรือครกดินเผาขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์การปรุงอาหารของคุณ
ชุดหินแกรนิตเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำพริกแกงไทยแท้และบดเครื่องเทศ ส่วนชุดดินเผาเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสูตรอาหารที่ต้องผสมหรือบดส่วนผสมอย่างเบามือ

เริ่มต้นด้วยครกและสากของคุณ

ก่อนใช้งาน
ล้างครกและสากให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ให้แน่ใจว่าพื้นผิวทั้งหมดสะอาด แม้ว่าจะใช้สบู่หรือน้ำยาล้างจานได้ แต่อย่าลืมล้างให้สะอาดหลังจากนั้น สำหรับชุดหินแกรนิต ให้แช่ไว้ในน้ำสะอาดเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง จากนั้นปล่อยให้แห้งสนิทในแสงแดด
ในส่วนของชุดดินเผา ควรทำความสะอาดให้สะอาด นำไปตากให้แห้งในแสงแดด จากนั้นจึงนำไปอบให้แห้ง
ในการบ่มเครื่องมือ ให้ใช้ข้าวสารบดเศษกรวดและสิ่งสกปรกที่เหลือออก ใส่ข้าวขาวจำนวนเล็กน้อยและน้ำ 1 ช้อนโต๊ะลงในครก จากนั้นใช้สากบดข้าวเป็นวงกลม วิธีนี้จะทำให้ข้าวกลายเป็นเนื้อสีเทาเนื่องจากข้าวจะดูดซับสิ่งสกปรกหรือเศษต่างๆ ล้างเนื้อข้าวออกด้วยน้ำแล้วทำซ้ำขั้นตอนเดิมจนกว่าเนื้อข้าวจะขาวและสะอาด

วิธีการใช้งาน
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการใช้ครกและสากอย่างมีประสิทธิภาพ:

 

ส่วนผสมผัดไทย
ในภาษาไทย ครกเรียกว่า “ครก”
  1. ทำให้ปูนคงตัว: วางปูนบนพื้นผิวที่มั่นคง โดยให้แน่ใจว่าจะไม่ลื่นหรือเคลื่อนที่ในระหว่างการใช้งาน
  2. ใส่ส่วนผสม: เริ่มต้นด้วยส่วนผสมที่มีขนาดใหญ่และแข็งกว่าที่ก้นครก ซึ่งอาจรวมถึงกระเทียม พริกไทย หรือตะไคร้ จากนั้นค่อยๆ ใส่ส่วนผสมที่มีขนาดเล็กลงและละเอียดอ่อนขึ้นตามลำดับ
  3. บดเป็นวงกลม: ใช้สากบดเป็นวงกลมโดยใช้แรงกดตามต้องการ
  4. เทคนิคการปรับ: ปรับแรงและความเร็วในการบดตามเนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ หากคุณต้องการให้ส่วนผสมละเอียดขึ้น ให้บดด้วยแรงกดมากขึ้นและเป็นเวลานานขึ้น
  5. พักเป็นระยะหากจำเป็น: เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ส่วนผสมร้อนเกินไปหรือทำให้กล้ามเนื้อได้รับความเครียด ควรพักเป็นระยะในระหว่างขั้นตอนการบด
  6. เทคนิคสำหรับส่วนผสมเฉพาะ: ส่วนผสมที่แตกต่างกันอาจต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น สำหรับส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกัน ให้เริ่มจากส่วนผสมที่แข็งที่สุดแล้วค่อย ๆ ไล่ระดับไปที่ส่วนผสมที่อ่อนกว่า เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
จำไว้ว่าเคล็ดลับคือการใช้การกระแทกแนวตั้งและการเสียดสีแบบวงกลมร่วมกัน พร้อมทั้งค่อยๆ เติมและบดส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและส่วนผสมที่ต้องการ

 

ประเทศไทย

 

การซ่อมบำรุง:

หลังจากใช้ครกและสากแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำความสะอาดและจัดเก็บอย่างถูกต้องเพื่อคงอายุการใช้งานและป้องกันไม่ให้กลิ่นตกค้างส่งผลต่อการปรุงอาหารครั้งต่อไป
ล้างชุดด้วยน้ำอุ่น และหากจำเป็น ให้ใช้สบู่หรือแปรงขจัดคราบหรือคราบสกปรกออก ผึ่งชุดให้แห้งสนิทหลังจากเช็ดน้ำส่วนเกินออกแล้ว ตรวจสอบว่าชุดแห้งสนิทก่อนจัดเก็บในที่แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์

สูตรอาหารที่ดูดีด้วยครกและสาก

ส่วนผสมผัดไทย
คนไทยส่วนใหญ่ยังคงนิยมใช้ครกหินแกรนิตมากกว่าเครื่องปั่นอาหาร เนื่องจากสามารถสกัดรสชาติจากส่วนผสมที่ตำได้ดีที่สุด

ต่อไปนี้เป็นสูตรอาหารไทยแบบดั้งเดิมบางส่วนที่สามารถปรุงได้อร่อยอย่างแท้จริงโดยใช้ครกและสาก:

น้ำพริกแกงไทย: น้ำพริกแกงไทย แท้เป็นส่วนผสมที่ซับซ้อนของสมุนไพร เครื่องเทศ และเครื่องปรุงรส น้ำพริกแกงต้องผสมสมุนไพรและเครื่องเทศให้เข้ากันดี ครกและสากจะช่วยให้คุณได้น้ำพริกที่ดึงเอารสชาติที่สดใสและกลิ่นหอมอันเย้ายวนของอาหารไทยออกมาได้

ส้มตำ (ส้มตำเขียว): ส้มตำ เป็นอาหารไทยที่ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติและเนื้อสัมผัสที่สดใส การใช้ครกและสากในการเตรียมน้ำสลัดช่วยให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากันอย่างลงตัว ทำให้เกิดรสชาติหวาน เปรี้ยว และเผ็ดที่สมดุล การตำเบาๆ ของสากจะทำให้ส่วนผสมช้ำเล็กน้อย ทำให้น้ำสลัดไหลออกมาและเพิ่มรสชาติโดยรวม

น้ำพริก: น้ำพริกเป็นเครื่องปรุงรสอเนกประสงค์ที่ช่วยเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนให้กับอาหารทุกชนิด คุณสามารถปรุงน้ำพริกที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลมกล่อมได้ตามความต้องการ

ต้มข่าไก่:
ต้มข่าไก่แบบไทยๆ เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมและรสชาติดี โดยใช้ครกและสากผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำซุปจะเข้มข้นและกลมกล่อม ทำให้ทุกคำที่ตักเข้าปากนั้นอร่อยถูกปาก