ตะกร้าสินค้าของฉัน
รถเข็นของคุณว่างเปล่าขณะนี้
ช้อปปิ้งต่อน้ำตาลมะพร้าวเป็นสารให้ความหวานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย น้ำตาลมะพร้าวสีน้ำตาลที่ไม่ผ่านการขัดสีนี้มาจากต้นมะพร้าวซึ่งเติบโตอย่างอิสระทั่วประเทศ น้ำตาลมะพร้าวถูกนำมาใช้ในอาหารไทยมานานหลายศตวรรษ ก่อนที่ใครๆ จะได้เห็นน้ำตาลทรายขาวแบบมาตรฐานที่เราใช้กันในปัจจุบัน ส่วนผสมจากธรรมชาติชนิดนี้มีรสชาติที่ล้ำลึกกว่าน้ำตาลมาตรฐานมาก และยังเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
กระบวนการผลิตน้ำตาลมะพร้าวแบบดั้งเดิมนั้นเริ่มต้นจากเกษตรกรผู้กล้าหาญและคล่องแคล่วที่ปีนขึ้นไปบนต้นมะพร้าวและตัดดอกตูม ซึ่งจะทำให้ได้น้ำหวานสีขาวขุ่นที่เก็บรวบรวมผ่านท่อไม้ไผ่แล้วใส่ลงในหม้อใบใหญ่ จากนั้นจึงนำไปต้มเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนน้ำระเหยไปจนเหลือเพียงน้ำเชื่อมหวานๆ สุดท้ายจึงนำไปทิ้งไว้ในแม่พิมพ์เพื่อให้แข็งตัวและเมื่อเย็นลงก็พร้อมใช้งานได้ทันที
ความหวาน สี และความสม่ำเสมอของอ้อยอาจแตกต่างกันได้มากขึ้นอยู่กับต้นอ้อยและระยะเวลาในการต้ม ในความเป็นจริง อ้อยอาจมีเนื้อนุ่มเหมือนฟัดจ์หรือแข็งเหมือนหิน และอาจมีสีตั้งแต่สีเบจไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม
น้ำตาลมะพร้าวมาจากน้ำหวานของดอกตูม ส่วนน้ำตาลที่เราบริโภคทุกวันมาจากการคั้นและสกัดน้ำหวานจากต้นอ้อย
เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำตาลอ้อย น้ำตาลมะพร้าวถือเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า เนื่องจากน้ำตาลมะพร้าวมีแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี และแมกนีเซียมในปริมาณเล็กน้อย นอกจากนี้ น้ำตาลมะพร้าวยังมีดัชนีน้ำตาลต่ำ ซึ่งหมายความว่ามีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดน้อยกว่า คุณสมบัติเหล่านี้เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงที่ว่าน้ำตาลมะพร้าวถือเป็นน้ำตาลธรรมชาติมากกว่า เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการทางเคมีเหมือนน้ำตาลขัดสี ทำให้น้ำตาลมะพร้าวเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในครัวทั่วโลก
ในประเทศไทยมีการใช้น้ำตาลมะพร้าวกันอย่างแพร่หลายทั้งในการทำขนมหวานและอาหารคาว ขนมหวานแบบดั้งเดิม เช่น ปอเปี๊ยะหวาน ฟลานมะพร้าว และพุดดิ้งข้าวเหนียว ล้วนมีส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าวทั้งสิ้น
นอกจากนี้ มักนำไปใส่ในอาหารคาวของไทย เช่น ผัดไทย แกงเขียวหวาน ไก่สะเต๊ะ และสลัดมะละกอดิบ เพื่อเพิ่มความสมดุลและรสชาติ ไม่ต้องพูดถึงซอสและน้ำเชื่อมมากมายที่ใส่มา ดังนั้น หากต้องการรสชาติแบบไทยแท้ๆ อย่าลืมใส่ส่วนผสมลับอย่างน้ำตาลอ้อยธรรมชาติลงไปเล็กน้อย